วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2552

จัดฟันแฟชั่นอันตราย

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดฟันเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย การจัดฟันมิใช่เป็นไปเพื่อการรักษาเท่านั้น แต่มีการจัดฟันแฟชั่นซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเพื่อความเท่ เก๋ไก๋ ดูไฮโซ แต่หารู้ไม่ว่าอาจทำให้เกิดโรคร้ายและอันตรายตามมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ท.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า จากข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต พบว่า ในเกือบทุกเว็บไซต์ของวัยรุ่นที่เปิดให้แสดงความเห็น จะมีผู้เข้าไปลงโฆษณาและชักชวนให้มีการจัดฟันแฟชั่น โดยให้เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดต่อไปมักจะเป็นข้อความเหมือนกัน แต่มีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไม่ให้เหมือนกัน มีรูปแบบที่โฆษณาว่า เป็นการใช้ลวดและเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้ มีการประกาศรับสอนจัดฟันแฟชั่น มีบริการรับพิมพ์ฟันถึงบ้าน มีการส่งเครื่องมือจัดฟันที่ทำเสร็จแล้วไปให้ที่บ้านทางไปรษณีย์ สามารถจัดซื้อลวดจัดฟัน ยาง และอุปกรณ์ในการทำได้ จัดส่งทั่วประเทศ

จากการเดินสำรวจตามสถานที่รับจัดฟันแฟชั่น พบว่า ได้รับความนิยมจากเด็กวัยรุ่นค่อนข้างมาก บางแห่งต้องเข้าคิวในการทำ จนคนทำไม่มีเวลากินข้าวกลางวัน บางแห่งเพิ่มความน่าเชื่อถือโดยใช้คำว่า แล็บ (lab) สถานที่ทำมักเป็นตลาดนัด แหล่งชุมชน ถ้าเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงจะอยู่หน้าห้างฯ ถ้าเป็นห้างสรรพสินค้าเล็กๆ จะอยู่ในห้างฯ ซึ่งพบได้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

รูปแบบการจัดฟันแฟชั่น คือ
มีการใส่เครื่องมือแบบติดแน่น ขั้นตอนการทำจะมีการใช้หัวกรอฟันที่เป็นหิน กรอเอาเคลือบฟันออก แล้วใช้กรดฟอสฟอริกกัดเนื้อฟันให้เป็นรูพรุนเล็กๆ เพื่อที่จะให้เกิดการยึดเครื่องมือแบร็คเก็ทให้ติดกับฟันได้ จากนั้นใช้วัสดุยึดระหว่างเครื่องมือแบร็คเก็ทกับฟัน มีการใช้ลวดร้อยเข้าไปในร่องของแบร็คเก็ทแล้วใช้ยางรัดให้ลวดติดกับแบร็คเก็ท

การใส่เครื่องมือถอดได้ ขั้นตอนการทำจะต้องมีการพิมพ์ฟัน เพื่อทำแบบฟัน จะมีการนัดเพื่อมาใส่เครื่องมือในอีก 1 สัปดาห์ โดยคนที่ทำจะส่งให้ทางแล็บที่อยู่ในขบวนการเดียวกันให้ทำเครื่องมือให้ จากนั้นก็จะใส่เครื่องมือในปากให้
อันตรายของการจัดฟันแฟชั่น คือ

ขั้นตอนการทำสกปรก และมีโอกาสได้รับเชื้อโรค เนื่องจากผู้ทำไม่ได้ใส่ถุงมือ ไม่มีการล้างมือด้วยน้ำยากำจัดเชื้อก่อนทำงาน เครื่องมือที่ใช้ เช่น ถาดพิมพ์ฟันใช้แล้วไม่ได้ล้าง มีคราบวัสดุพิมพ์ปากและคราบปูนหล่อแบบติดอยู่ ไม่มีการฆ่าเชื้อใดๆ ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือโรคเอดส์ได้

อันตรายของตัวเครื่องมือจัดฟันแฟชั่น เนื่องจากมีการใช้หัวกรอฟันที่เป็นหิน กรอเอาเคลือบฟันออกทำให้มีการเสียเคลือบฟันไป รวมทั้งการใช้กรดกันฟันจะทำให้เคลือบฟันบางลง ทำให้มีโอกาสที่จะทำให้เกิดฟันผุได้ง่าย ฟันอาจเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม เนื่องจากเครื่องมือที่ใส่มีแรงกดจากลวดที่ใส่ และถ้าลวดกดฟันมากเกินไป จะทำให้มีอาการปวดมากจนอาจทำให้ฟันซี่นั้นตาย เปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือรากฟันละลาย จะต้องรักษารากฟันหรือถอนฟันซี่นั้นทิ้งไป

เมื่อใส่เครื่องมือในปาก เครื่องมืออาจหลุดลงคอ บาดกระพุ้งแก้ม และเนื้อเยื่อ ทำให้เป็นแผล นอกจากนั้นอาจกดเหงือก ทำให้เหงือกอักเสบบวมแดง การมีแผลในช่องปากต่อเนื่องกันนานๆ หลายปี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเนื้อเยื่อในช่องปากได้ การแปรงฟันทำได้ยากมีเศษอาหารและแผ่นคราบจุลินทรีย์สะสมอยู่รอบๆ

เครื่องมือที่ใส่ เมื่อใส่เครื่องมือนานๆ หลายเดือน ก็อาจทำให้ฟันผุเป็นร่องลึกสีน้ำตาลรอบๆ เครื่องมือที่ใส่ เครื่องมือและยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่ออยู่ในช่องปากและถูกน้ำลายจะเกิดสนิม ยางสีที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารพิษปนเปื้อน และละลายออกมาเมื่อถูกน้ำลายหากสะสมในร่างกายจะเป็นอันตรายได้

การจัดฟันแฟชั่นไม่ได้ทำให้เด็กวัยรุ่นเท่เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอันตรายต่อฟันและอวัยวะอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงติดตามมาอีกมาก การจัดฟันแฟชั่นไม่เหมือนแฟชั่นการทำผม เปลี่ยนสีผม หรือการทำเล็บ เพนท์สีบนตัวเล็บ เพราะอุปกรณ์จัดฟันอยู่บนตัวฟันที่ต้องใช้งานในการบดเคี้ยวอาหาร อีกทั้งอวัยวะในช่องปากเป็นอวัยวะที่บอบบาง เกิดอันตรายได้ง่ายและมีโอกาสที่เชื้อโรคและสารพิษจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เด็กวัยรุ่นจึงไม่ควรตัดสินใจจะจัดฟันแฟชั่นเพราะคิดเพียงแค่ต้องการความเท่ ทันสมัยเหมือนเพื่อนๆ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึง สังคมไทยที่ไม่ได้พัฒนาเป็นสังคมแห่งปัญญา แต่เป็นสังคมที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์จากความไม่รู้ของเด็กวัยรุ่น

ที่มาข้อมูล : http://www.healthcorners.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น